ฟอนท์เบอร์-ชื่อ ถูกกำหนดให้ใช้เหมือนกันหมดทุกทีม ในลีกฟุตบอลระดับโลก คุณรู้หรือไม่??

ipro999.online ทำไมลีกฟุตบอลระดับโลก ให้ทุกสโมสร ใช้ ฟอนท์เบอร์-ชื่อ บนชุดแข่งขันเหมือนกัน??

ล่าสุด กัลโช เซเรีย อา การแข่งขันฟุตบอลระดับสูงสุดของอิตาลี ก็ออกกฎบังคับให้ทุกสโมสร ใช้ ฟอนท์เบอร์-ชื่อ บนชุดแข่งขันเหมือนกันทั้งหมด นับเป็นลีกที่ 4 จาก 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ที่เลือกใช้แนวทางนี้

การใช้ ฟอนท์เบอร์-ชื่อ เหมือนกันทั้งลีก หรือ streamlined kit font เข้าสู่วงการฟุตบอลครั้งแรกในปี 1997 โดยผู้เริ่มต้นคือ พรีเมียร์ลีก การแข่งขันฟุตบอล ระดับสูงสุด ของประเทศอังกฤษ ที่ออกคำสั่ง ให้ทีมฟุตบอลทั้ง 20 ทีม ใช้ฟอนท์เบอร์-ชื่อเหมือนกันทั้งหมด

พรีเมียร์ลีกให้เหตุผลว่า การใช้ฟอนท์เบอร์-ชื่อเหมือนกัน จะทำให้ผู้ชมรับรู้ ได้ทันทีว่า สโมสรนี้กำลังแข่งขันในพรีเมียร์ลีก ไม่ใช่ลีกรอง เช่น ดิวิชั่น 1 หรือ 2 โดยพรีเมียร์ลีกเชื่อว่าทำแบบนี้ จะทำให้ทีมในลีกมีมูลค่ามากขึ้น ผ่านเบอร์-ชื่อบนหลังเสื้อ ที่มีเพียงทีมฟุตบอล บนลีกสูงสุดเท่านั้น ที่สามารถใช้ฟอนท์ แบบนี้ได้

เพื่อเป็นการยืนยัน แนวคิดดังกล่าว พรีเมียร์ลีก จึงบังคับให้เบอร์-ชื่อบนเสื้อฟุตบอล เป็นฟอนท์เดียวกับ ที่ปรากฎในคำว่า “PREMIER LEAGUE” บนโลโก้ของลีก เพื่อแสดงความเชื่อมโยง ของกันและกัน ขณะที่ฟอนท์เบอร์ พรีเมียร์ลีกจะใส่ สัญลักษณ์สิงโต ที่ปรากฎในโลโก้ลีก ลงไปบริเวณด้านล่าง ของเบอร์แทน

การบังคับ ใช้ฟอนท์เบอร์-ชื่อ เหมือนกันทั้งลีก เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1997 ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อมูลค่าของทีม ในการแข่งขัน แต่นั่นคือคำกล่าว ที่มีอายุยาวนานเกิน 20 ปี ในโลกฟุตบอลทุกวันนี้ แทบจะเป็นคนละใบ จากปี 1997 แล้วมีเหตุผลอะไรอื่นอีก ที่อยู่เบื้องหลัง การใช้ฟอนท์เบอร์-ชื่อแบบนี้

เหตุผลแรกคือ รายได้มหาศาล จากการจำหน่ายเบอร์-ชื่อนักฟุตบอล ในปี 2018 พรีเมียร์ลีกกล่าวว่า มีการผลิตเบอร์ และชื่อของนักเตะในลีก รวมถึงอาร์มติดชุดแข่งขัน มากกว่า 15 ล้านชิ้น เพื่อจำหน่ายแก่แฟนฟุตบอลที่อาศัยอยู่ทั่วโลก อ้างอิงจากเว็บไซต์ร้านค้า ของสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ การสั่งซื้อเบอร์-ชื่อนักฟุตบอลหนึ่งราย คิดเป็นเงิน 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 627 บาท หากจำหน่ายได้ 15 ล้านราย คิดเป็นเงินมากเกือบ 1 หมื่นล้านบาท เลยทีเดียว

แทนที่จะปล่อยให้สโมสร ผลิตเบอร์-ชื่อนักฟุตบอล และโกยเงินเข้ากระเป๋าเพียงฝ่ายเดียว ลีกจัดการแข่งขัน เห็นช่องทางในการเข้ามาหาผลประโยชน์ในส่วนนี้ ปัจจุบัน พรีเมียร์ลีกทำสัญญากับบริษัท Avery Dennison ผู้ผลิตวัสดุกาวชื่อดัง เพื่อจำหน่ายเบอร์-ชื่อของลีก ที่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นเวอร์ชั่น 3 ตั้งแต่ปี 2017 ไปทั่วโลก

การที่ลีก เข้ามาดูแล ในการผลิต และจำหน่ายเบอร์-ชื่อนักฟุตบอล สามารถทำให้ การซื้อขาย สินค้าเหล่านี้ เป็นไปได้ง่าย กว่าการจัดจำหน่ายเอง โดยสโมสร เพราะไม่ว่าคุณ จะซื้อเสื้อฟุตบอล ตามร้านค้าไหน ก็สามารถหาเบอร์-ชื่อนักฟุตบอล ที่มีคุณภาพเดียวกัน ได้จากทุกที่

อีกเหตุผลที่สำคัญคือ การแข่งขัน ของลีกกีฬา ในเวทีโลก เหมือนที่รู้กันดีว่า กีฬาฟุตบอลในปัจจุบัน ไม่จำกัดแค่คนท้องถิ่น แฟนบอลที่อยู่อีกซีกโลก สามารถติดตาม การแข่งขัน ผ่านการถ่ายทอดสด โดยลีกที่ ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในการเปลี่ยนฟุตบอล เป็นสินค้า หนีไม่พ้น พรีเมียร์ลีก

ไม่ว่าเป็น ความบังเอิญ หรือตั้งใจ การใช้ฟอนท์เบอร์-ชื่อเหมือนกันทั้งลีก กลายเป็นเอกลักษณ์ ที่ทำให้พรีเมียร์ลีก แตกต่างจาก การแข่งขันฟุตบอล อื่นทั่วโลก ช่วยส่งเสริม แบรนด์อิมเมจ ของพรีเมียร์ลีก ให้ดูเหมือนลีก ลูกหนังอันดับ 1 มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ ลีกในประเทศอื่น ต้องเริ่มปรับ ตัวตามพรีเมียร์ลีก ให้ทัน

การใช้ฟอนท์เบอร์-ชื่อเหมือนกันทั้งลีก จึงช่วยเพิ่มมูลค่าและรายได้ของลีกฟุตบอล ทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ลีกฟุตบอลชั้นนำ จะหันมาใช้แนวทางนี้ เว้นเพียงแต่ บุนเดสลีกา ลีกสูงสุดของเยอรมัน ที่ยังคงยึดมั่นแนวทางกีฬาเพื่อท้องถิ่น เหมือนที่เคยเป็นมา

Cr by ณัฐนันท์ จันทร์ขวาง

——————————————————————–

สมัคร โปรโมชั้นภายในเดือนนี้ รับโบนัสร้อนแรง แอดเลย ที่ line: @ipro999

IPROBET-ipro999 แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอลออนไลน์ สมัครวันนี้ไม่มีฝากขั้นต่ำ เล่นได้ถอนได้ทันที เว็บตรงอันดับหนึ่ง สมัครวันนี้รับโปรมากมาย @ipro999v5